วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประวัติประเทศเวียดนาม



                                                  เวียดนาม                                                                                                                               ลักษณะทางภูมิศาสตร์
          เวียดนาม มีลักษณะพื้นที่เป็นแนวยาวคล้ายตัว S มีพื้นที่ประมาณ 331,690 ตารางกิโลเมตร (3 ใน 5 ของไทย หรือ ประมาณ 65%) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของคาบสมุทรอินโดจีน ทางทิศเหนือติดกับประเทศจีน ทิศใต้ติดกับทะเลจีนและอ่าวไทย ทิศตะวันออกติดกับอ่าวตัวเกี๋ยและทะเลจีน และทิศตะวันตกติดกับประเทศกัมพูชาและประเทศลาว
 
“ภูมิประเทศ”
          พื้นที่ของเวียดนามส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสูง (โดยเฉพาะทางภาคเหนือ) คั่นระหว่างที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง และตอนใต้เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงนอกจากนี้ยังมีชายฝั่งทะเลแคบๆ ที่ยาวจากเหนือจรดใต้
 
“ภูมิอากาศ”
          เวียดนามอยู่ในพื้นที่มรสุมเขตร้อน ทางภาคเหนือของประเทศจะมี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – เมษายน) ฤดูร้อน (พฤษภาคม – สิงหาคม) ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) และฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ส่วนทางภาคกลางและภาคใต้จะมีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูฝน (พฤษภาคม – ตุลาคม) และฤดูแล้ง (ตุลาคม – เมษายน)
 
ประชากร
          มีจำนวนประชากรประมาณ 86 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียด รองลงมาจะเป็นชนกลุ่มน้อย ชาวเขา และชาวเขมร
 
การเมืองการปกครอง
          เวียดนามปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม โดยมีพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (Communist Party of Vietnam: CPV) เป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวในประเทศ โครงสร้างการปกครองของเวียดนามแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ
          *สภาแห่งชาติ (The National Assembly หรือ Quoc-Hoi) เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการออกกฎหมายต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีอำนาจให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งและถอดถอนประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี
          *องค์กรฝ่ายบริหาร ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและบริหารประเทศ
          *รัฐบาลท้องถิ่น (People’s Committee of Province) เวียดนามมีสภาประชาชนและคณะกรรมการประชาชนประจำท้องถิ่นเป็นองค์กรบริหารสูงสุดประจำท้องถิ่น โดยรัฐบาลท้องถิ่นจะบริหารงานตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎระเบียบที่รัฐบาลกลางบัญญัติไว้
 
 
เศรษฐกิจและทรัพยากรที่สำคัญ
          เวียดนามจัดได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว อีกทั้งเวียดนามยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ทำให้เวียดนามมีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญๆ มากมาย และยังมีพื้นที่ที่เหมาะแก่การเพาะปลูกอีกด้วย เวียดนามมีพืชเศรษฐกิจสำคัญ คือ ข้าวเจ้า ยางพารา ชา กาแฟ และยาสูบ สำหรับแร่ส่งออกที่สำคัญ คือ เหล็ก ถ่านหินแอนทราไซต์ นอกจากนี้ยังมีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันอีกด้วย
          *ช่วงประมาณ 700 ปีก่อนพุทธกาล – พ.ศ.1481 ประเทศเวียดนามตกอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์จีน ทำให้ได้รับอิทธิพลด้านศิลปวัฒนธรรม การปกครอง และแนวคิดขงจื้อมาจากจีน
          *ในพ.ศ.2344 เวียดนามได้รับอิสรภาพจากจีน ด้วยความช่วยเหลือจากเมอซิเออร์ ปิกโน เอด เบอาง (Pigneu fe Behaine) มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส และความสามารถของแม่ทัพเหงียน อัน (Nguyen Anh) ซึ่งต่อมาได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิญาลอง
          *ต่อมาในสมัยพระเจ้ามิงห์หม่าง มีนโยบายต่อต้านคาทอลิกเป็นเหตุให้ฝรั่งเศสเข้าแทรกแซงเวียดนาม และใน พ.ศ.2426 เวียดนามก็ตกเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสได้แบ่งเวียดนามออกเป็น 3 ส่วน คือ อาณานิคมโคชินจีนในภาคใต้ เขตอารักขาอันนามในตอนกลาง และเขตอารักขาตัวเกี๋ยในภาคเหนือ
          *ในพ.ศ.2484 เกิดขบวนการเวียดมินห์ขึ้น เพื่อขับไล่ฝรั่งเศสโดยมีโฮจิมินห์ เป็นผู้นำ
          *ในพ.ศ.2497 เวียดนามทำอนุสัญญาเจนีวา เพื่อสงบศึกกับฝรั่งเศส เป็นผลให้เวียดนามต้องแบ่งประเทศออกเป็น 2 ส่วน คือ เวียดนามเหนือภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์ และเวียดนามใต้ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย
          *ใน พ.ศ.2503 เกิดสงครามเวียดนาม เป็นสงครามระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ สงครามนี้ยุติลงได้ด้วยชัยชนะของเวียดนามเหนือ ทำให้เวียดนามรวมกันเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น